วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การเกากีต้าร์

                 สวัสดีครับ วันนี้ก็ได้ฤกษ์ในการอัพข้อมูลเกี่ยวกับกีต้าร์อีกครั้ง  ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องการเกากีต้าร์นั้น  ผมใคร่ขอแนะนำ วิธีคิดในการเล่นกีต้าร์ไว้นิดนึงครับ  ไม่ว่าเราจะยืนเล่นหรือนั่งเล่นขอให้เราจัดท่าทางในการเล่นให้ถนัดและไม่เกร็งให้รู้สึกสบายๆผ่อนคลาย  การสะพายกีต้าร์เวลายืนเล่นก็ให้ตำแหน่งของกีต้าร์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ที่ผู้เล่นสามารเล่นได้อย่างคล่องตัวไม่ติดไม่ขัด การวางนิ้วมือซ้าย(ด้านที่ใช้กดสายจับคอร์ด)บางคนนิ้วสั้นก็ควรต้องพยายามหาจุดตำแหน่งที่สามารถจับได้ครบ อย่างท่านที่นิ้วยาวหน่อยก็จะได้เปรียบครับ จับแบบไหนก็ถึงครบหมด ไม่ว่าจะจับแบบกำคอกีต้าร์(จะเป็นลักษณะที่คอกีต้าร์ด้านหลังจะแนบกับฝ่ามือ เป็นที่นิยมในหมู่มือกีต้าร์ร็อค) การจับแบบนี้จะทำให้การดันสาย หรือเขย่าสาย ทำได้ง่าย หรือจับแบบปากคีบ(จะเป็นลักษณะที่นิ้วโป้งกดประคองที่คอกีต้าร์ด้านหลัง ส่วนใหญ่จะเป็นการเล่นกีต้าร์คลาสิค หรือแจ็ซ)  แบบนี้จะเหมาะกับท่านที่มีนิ้วไม่ยาวนัก แต่สามารถทำให้ท่านกางนิ้วได้กว้างไกลมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะจับแบบไหนก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ก็ควรที่น่าจะฝึกควบคู่กันไปนะครับ เลือกใช้ให้เหมาะสมกับความถนัดและความต้องการ

                  นอกเรื่องเสียยืดยาว คราวนี้เราก็มาเข้าเรื่องการเกากีต้าร์เสียทีครับ    การเกากีต้าร์ หรือปิ๊คกิ้ง(Picking) เป็นการเล่นแบบกระจายคอร์ด จะเล่นผสมไปกับการตีคอร์ด หรือเล่นเกาเดี่ยวๆก็สามารถทำได้  ในตอนนี้ผมจะพูดถึงการเกาโดยใช้นิ้วก่อนนะครับ    เรามาเริ่มกันที่มือขวาที่ใช้เกา ว่าเราจะวางตำแหน่งแบบพื้นฐานอย่างไร  ตามรูปเลยนะครับ

                   จากรูปมีวิธีจำง่ายๆ คือ นิ้วโป้งดีดเบส(เสียงต่ำ)ขึ้นอยู่กับว่าเล่นคอร์ดใด ยกตัวอย่างถ้าเป็นคอร์ด D ราก(Root)ของคอร์ด D ก็จะเป็นเสียง เร(ต่ำ) ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่ง สายเปล่าของสาย4 ดังนั้น นิ้วโป้งจึงต้องไปดีดที่สาย4  ในขณะเดียวกัน ถ้าเป็นคอร์ด C หรือ คอร์ด G ตำแหน่งเสียงเบสก็จะอยู่ที่สาย5หรือสาย6  ดังนั้นนิ้วชี้ก็จะดีดสาย4ตามปกติ นิ้วอื่นๆก็ไล่เรียงกันไปตามลำดับครับ
                    การวางมือก็จะเป็นลักษณะคล้ายๆจะกำมือหลวมๆ ให้ตำแหน่งของนิ้วอยู่ในบริเวณไกล้กับสายที่จะดีดเป็นท่าเตรียมครับ เมื่อฝึกบ่อยๆก็จะเกิดความเคยชินและวางมือเป็นอัตโนมัติในท่านี้

                     การเกา(ดีด)จะเป็นลักษณะ นิ้วโป้งดีดลง 4นิ้วที่เหลือดีดขึ้นครับ

แบบฝึกเกากีต้าร์
                               จะเป็นการฝึกให้นิ้วคุ้นเคยกับตำแหน่งของสายที่จะดีดก่อนนะครับ ฝึกช้าๆก่อนนะครับ
 เราจะฝึกด้วยคอร์ดง่ายๆก่อนนะครับ  C  Am  Dm  G7    
คราวนี้เราต้องมาเรียนรู้การอ่านแทปเพื่อการสื่อสารที่ตรงกันก่อนนะครับ  ไม่ยากครับ 

การอ่านแท็บ


      การอ่านแท็บกีต้าร์    สายกีต้าร์จะถูกเขียนแทนด้วยเส้น 6 เส้น เรียงเป็นลักษณะของสายกีต้าร์บนฟิงเกอร์บอร์ด    และเส้นบนสุดคือสาย 1 ของกีต้าร์ไล่ลงมาเป็นสาย 2 สาย 3 สาย 4 สาย 5 สาย 6 และมีตัวเลขที่อยู่บนแท็บนั้นหมายถึงตำแหน่งช่องที่ต้องกดบนฟิงเกอร์บอร์ด ของสายนั้นๆ ส่วนเลข 0 หมายถึง การดีดสายเปล่า  และถ้าตัวเลขที่อยู่บนเส้นอยู่ในตำแหน่งเดียวกันในแนวตั้งดังรูปให้ดีดพร้อมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นการตีคอร์ด หรือเล่นดีดประสาน   และถ้าตัวเลขเรียงกันไปทางขวามือ ให้ดีดทีละครั้งตามลำดับ

แบบฝึกเกาที่ 1 ดีดตามจังหวะตก  การนับจังหวะเหมือนเดิมนะครับ



                 เริ่มจากช้าๆก่อนนะครับให้นิ้วคุ้นกับตำแหน่งการดีดแล้วค่อยเพิ่มความเร็ว  เมื่อฝึกคล่องแล้วเราอาจจะเพิ่มความเร็วในการเล่น(ดีด) โดยการเล่นในจังหวะยก แต่ความเร็วในการนับเท่าเดิม



วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สิ่งที่จะต้องเจอระหว่างฝึกกีต้าร์

       เชื่อว่าหลังจากที่พยายามฝึกกันมาสักระรยะหนึ่งแล้วนั้น เพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลายท่านจะต้องผ่านสิ่งเหล่านี้ ซึ่งคนเล่นกีต้าร์จะต้องเจอกันแทบทุกคน ต้องทำใจครับ แก้ไขกันไปตามสถานการณ์
 1. นิ้วด้าน  คนเล่นกีต้าร์ฝึกใหม่แทบทุกคนจะมีอาการปลายนิ้วทั้งสี่ด้าน(ข้างที่ใช้กดสายกีต้าร์) เนื่องจาก ผมเชื่อว่า ทุกคนที่เริ่มฝึกมักจะฝักกับกีต้าร์โปร่งที่สายแข็งๆที่ตั้งเสียงมาตรฐาน เวลาเล่นจึงต้องออกแรงกดสายให้แน่นเพื่อมิให้เกิดเสียงบอด  พอเล่นหรือฝึกๆไปก็จะทำให้ปลายนิ้วด้าน หรือแม้แต่ผู้ที่เล่นได้ระดับหนึ่งแล้วได้เป็นมือกีต้าร์(คอร์ด)ประจำกลุ่มเพื่อนๆ เวลาพวกเค้าไปไหนก็จะได้รับเชิญ(ลาก)ไปตีคอร์ดกีต้าร์ให้เพื่อนๆได้ร่วมร้องเพลงกันอย่างสนุกสนานมีความสุข เล่นไปหลายเพลงจนต้องขอพักนิ้วบ้าง(ฮา...)  
             วิธีแก้ปัญหา
      1.1 แก้ที่สายกีต้าร์ครับ กีต้าร์โปร่งส่วนใหญ่จะมีสายที่แข็ง กดนิ้วยาก แต่จะให้เสียงที่คม แน่น และกังวาล   และทำให้มือขอผู้เล่นเกิดการพัฒนาในเรื่องของกำลังกดของนิ้ว พัฒนาในเรื่องของการวางนิ้วในตำแหน่งเฟร็ตต่างๆที่จะได้เสียงที่ไม่บอด จริงๆแล้วไม่ต้องแก้ก็ได้ครับ เอาไว้ฝึกพลังนิ้ว แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็แก้ปัญหาโดยการเปลี่ยนสายใหม่ เป็นเบอร์ที่ต่ำลงมา อย่างเบอร์ 9 ยี่ห้อ ก็ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ครับ หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ เปลี่ยนเป็นสายกีต้าร์ไฟ้ฟ้า ก็จะทำให้นิ่มมือขึ้น จับคอร์ดง่ายขึ้นครับ

หรืออีกสาเหตุที่ทำให้กดนิ้วยากนั้น เกิดจากการตั้งสายจากโรงงานที่สูงเกินไปทำให้ระยะห่างระหว่างสายกีต้าร์กับฟิงเกอร์บอร์ดมีมากกว่าปกติ ทำให้ต้องออกแรงกดสายมากขึ้น ความคล่องตัวในการเล่นก็จะลดลง ส่วนใหญ่ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นนะครับ ถ้าตอนซื้อเราไปลองเล่นเองที่ร้าน ตัวไหนเล่นสบายมือ รูปลักษณ์ถูกใจก็ซื้อมาเลย  แต่ถ้าซื้อต่อเพื่อนหรือมีใครยกกีต้าร์ให้โดยที่เราต้องรับมา อันนี้เราก็ต้องมาแก้ปัญหากันต่อไป ส่วนใหญ่ก็ต้องนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญซ่อมแก้ไข ไปให้ร้านเค้าจัดการซึ่งปัจจุบันก็หาได้ไม่ยากครับ


ขอบคุณเจ้าของคลิปประกอบด้วยครับ

           นอกจากปัญหานิ้วด้านนี้จะเกิดจากสายกีต้าร์ดังกล่าวแล้วนั้น  ก็ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งซึ่งหลีกเลี่ยงได้ยากนั่นก็คือ การเล่น หรือฝึกเล่น มากเกินไม่ได้หยุดพัก  ก็สามารถแก้ได้โดยการ แบ่งช่วงเวลาในการเล่นการฝึกให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดอาการนิ้วล้า และนำให้ไปสู่อาการปวดมือ ปวดข้อมือ แขน ส่วนอื่นๆ   แต่หากยังเกิดนิ้วด้านจนแข็งก็สามารถใช้กรรไกรตัดเล็บค่อยๆขลิบออก หรือไม่ก็ใช้โลชั่นสำหรับลดรอยด้านบนผิวหนังมาทา ก็สามารถแก้ปัญหาได้เช่นกันครับ